• สำหรับลูกค้า

  • สำหรับคู่ค้า

  • สำหรับผู้สมัครงาน
    และบุคลากร

  • สำหรับการใช้
    กล้องวงจรปิด

ประกาศความเป็นส่วนตัว บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด

สำหรับลูกค้า

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”

“อาร์เอ็มเอ” หรือ “บริษัทฯ”

“เว็บไซต์”

เกี่ยวกับบริษัทฯ

บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด เป็นนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 150 อาคารทีเพลซ ชั้น 15 ซอยสขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย

กลุ่มบริษัท อาร์เอ็มเอ มีการดำเนินกิจการใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยที่อาร์เอ็มเอ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการชั้นนำในภาคธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ

การดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ การขายปลีกยานยนต์ การผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วน ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ การจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก การผลิตพลังงาน ตลอดจนแฟรนไชส์อาหาร และการให้บริการด้านวิศวกรรม โดยมีโรงงานผลิตและดัดแปลงยานยนต์ของอาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี แอฟริกาใต้ พม่า ออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานของ ฟอร์ด โกลบอล ฟลีท เซลส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และดูไบ

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด รวมถึงบริษัทหรือธุรกิจในเครือได้ที่ www.rmagroup.net

ประเภทบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าข้องข้อมูลส่วนบุคคลในประเภท ดังต่อไปนี้

ลูกค้า:

บุคคลที่ซื้อผลิตภัณฑ์ และ/หรือใช้บริการของบริษัทฯ และ/หรือผู้ซึ่งซึ่งมีแนวโน้มจะซื้อผลิตภัณฑ์และ/หรือใช้บริการของบริษัทฯ รวมถึงบุคคลอื่นในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม สัมมนา การประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ บุคคลที่ติดต่อเพื่อรับข้อมูลหรือบริการจากบริษัทฯ ผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงนิติบุคคลและบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้า:

บุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล รวมถึงบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดการ ผู้ซื้อ ผู้รับตราส่ง และผู้จ่ายเช็ค เป็นต้น

วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ โดยตรง:

บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

  • ข้อมูลที่ถูกแบ่งปันระหว่างบริษัทในเครือ
  • ข้อมูลที่ปรากฏสู่สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ บล็อก (Blogs) สื่อสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์เชิงพาณิชย์
  • รายชื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (marketing lists) ซึ่งได้รับจากบุคคลภายนอก หรือผู้รวบรวมข้อมูล

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมโดยวิธีการอัตโนมัติจากการที่ท่านได้ใช้บริการของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมายรวมถึง

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จะต้องใช้ในการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด มีความเกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่าน การที่ท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับบริษัทฯ อาจทำให้เกิดผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน

ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ เว้นแต่ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมตามกฎหมาย หรือตามสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีดังที่ได้กล่าวมานี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายหรือประกาศฉบับที่ได้มีเพิ่มเติมร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด และตามข้อกำหนดภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ แก่หน่วยงานและบุคคล ดังต่อไปนี้:

ระยะเวลาการจัดเก็บ

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามระยะเวลาอื่นใดที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ในการนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาอายุความสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รวมถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท และที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการแก่ท่าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือธุรกรรมใด ๆ ได้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น (หรือระยะเวลาที่นานกว่านั้นตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้) บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากระบบหรือการจัดเก็บของบริษัทฯ รวมถึงระบบหรือการจัดเก็บของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวบุคคลได้

หากท่านมีข้อสงสัยประการใดหรือต้องการรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมจากท่านดังนี้:

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและอาจขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่ไม่สามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวตนได้ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้

สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ หรือมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่าในทางใด ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้ช่องทางการติดต่อในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ ตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับประกาศฯ ฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้แบบฟอร์มตามที่ได้เผยแพร่บน www.rmagroup.net

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางฝ่ายกำกับดูแล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศฯ ฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและต้องตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือทำการปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ในเวลาใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขตามความจำเป็นเพื่อให้ประกาศฯ ฉบับนี้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้หรือข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบประกาศฯ ทุกครั้งที่ท่านเข้าถึงหรือใช้บริการ หรือเมื่อท่านมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไม่ว่าในทางใด เพื่อให้ท่านได้ทราบอยู่เสมอว่าบริษัทฯ มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวอย่างไร รวมถึงวิธีการที่ท่านจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านได้

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

[1] กลุ่มบริษัทอาร์เอ็มเอ ประกอบไปด้วย นิติบุคคลดังต่อไปนี้ ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายราย (1) บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด (2) บริษัท อาร์.เอ็ม.เอ.เทรดดิ้ง จำกัด (3) บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด (4) บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด (5) บริษัท อาร์เอ็มเอ ซิตี้ มอเตอร์ส จำกัด (6) บริษัท โกลบอล อาร์เมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (7) บริษัท โกลบอล ฟลีท เซลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (8) บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด (9) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ (10) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด

ประกาศความเป็นส่วนตัว บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด

สำหรับคู่ค้า

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”

“อาร์เอ็มเอ” หรือ “บริษัทฯ”

“เว็บไซต์”

เกี่ยวกับบริษัทฯ

บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด เป็นนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 150 อาคารทีเพลซ ชั้น 15 ซอยสขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย
  
กลุ่มบริษัท อาร์เอ็มเอ มีการดำเนินกิจการใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยที่อาร์เอ็มเอ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการชั้นนำในภาคธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ

การดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ การขายปลีกยานยนต์ การผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วน ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ การจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก การผลิตพลังงาน ตลอดจนแฟรนไชส์อาหาร และการให้บริการด้านวิศวกรรม โดยมีโรงงานผลิตและดัดแปลงยานยนต์ของอาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี แอฟริกาใต้ พม่า ออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานของ ฟอร์ด โกลบอล ฟลีท เซลส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และดูไบ

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด รวมถึงบริษัทหรือธุรกิจในเครือได้ที่ www.rmagroup.net

ประเภทบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าข้องข้อมูลส่วนบุคคลในประเภท ดังต่อไปนี้

บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้า

บุคคลที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ โดยพิจารณาจากการแสดงเจตนาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และ/หรือลงทะเบียนเป็นคู่ค้า เช่น คนกลาง ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจแฟรนไชส์หรือธุรกิจตัวแทนจำหน่าย คู่สัญญา หรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกันจากการแสดงความสนใจในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และ/หรือลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ เป็นต้น

คู่ค้า

บุคคลที่จัดทำใบเสนอราคาสินค้าและ/หรือบริการให้แก่บริษัทฯ บุคคลซึ่งได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือผู้ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ในลักษณะเดียวกัน เช่น คนกลาง ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจแฟรนไชส์หรือธุรกิจตัวแทนจำหน่าย คู่สัญญา หรือผู้ที่สนใจในโครงการของธุรกิจหรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่อาจเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า

บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทนหรือบุคลากรของคู่ค้าที่เป็นนิติบุคคล รวมถึงบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดการ ผู้ซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้จ่ายเช็ค เป็นต้น

วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมโดยวิธีการอัตโนมัติจากการที่ท่านได้ใช้บริการของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก

ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมายรวมถึง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม หรือใช้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565

วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จะต้องใช้ในการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด มีความเกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่าน การที่ท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับบริษัทฯ อาจทำให้เกิดผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน

ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ เว้นแต่ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมตามกฎหมาย หรือตามสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีดังที่ได้กล่าวมานี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายหรือประกาศฉบับที่ได้มีเพิ่มเติมร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด และตามข้อกำหนดภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ แก่หน่วยงานและบุคคล ดังต่อไปนี้

ระยะเวลาการจัดเก็บ

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามระยะเวลาอื่นใดที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ในการนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาอายุความสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รวมถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท และที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการแก่ท่าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือธุรกรรมใด ๆ ได้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น (หรือระยะเวลาที่นานกว่านั้นตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้) บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากระบบหรือการจัดเก็บของบริษัทฯ รวมถึงระบบหรือการจัดเก็บของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวบุคคลได้

หากท่านมีข้อสงสัยประการใดหรือต้องการรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมจากท่านดังนี้

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและอาจขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่ไม่สามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวตนได้ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้

สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ หรือมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่าในทางใด ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้ช่องทางการติดต่อในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ ตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับประกาศฯ ฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้แบบฟอร์มตามที่ได้เผยแพร่บน www.rmagroup.net

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางฝ่ายกำกับดูแล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศฯ ฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและต้องตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือทำการปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ในเวลาใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขตามความจำเป็นเพื่อให้ประกาศฯ ฉบับนี้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้หรือข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบประกาศฯ ทุกครั้งที่ท่านเข้าถึงหรือใช้บริการ หรือเมื่อท่านมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไม่ว่าในทางใด เพื่อให้ท่านได้ทราบอยู่เสมอว่าบริษัทฯ มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวอย่างไร รวมถึงวิธีการที่ท่านจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านได้

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

[1] กลุ่มบริษัทอาร์เอ็มเอ ประกอบไปด้วย นิติบุคคลดังต่อไปนี้ ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายราย (1) บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด (2) บริษัท อาร์.เอ็ม.เอ.เทรดดิ้ง จำกัด (3) บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด (4) บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด (5) บริษัท อาร์เอ็มเอ ซิตี้ มอเตอร์ส จำกัด (6) บริษัท โกลบอล อาร์เมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (7) บริษัท โกลบอล ฟลีท เซลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (8) บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด (9) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ (10) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด

ประกาศความเป็นส่วนตัว บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด

สำหรับผู้สมัครงานและบุคลากร

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”

“อาร์เอ็มเอ” หรือ “บริษัทฯ”

เกี่ยวกับบริษัทฯ

บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด เป็นนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 150 อาคารทีเพลซ ชั้น 15 ซอยสขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย
  
กลุ่มบริษัท อาร์เอ็มเอ มีการดำเนินกิจการใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยที่อาร์เอ็มเอ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการชั้นนำในภาคธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ

การดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ การขายปลีกยานยนต์ การผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วน ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ การจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก การผลิตพลังงาน ตลอดจนแฟรนไชส์อาหาร และการให้บริการด้านวิศวกรรม โดยมีโรงงานผลิตและดัดแปลงยานยนต์ของอาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี แอฟริกาใต้ พม่า ออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานของ ฟอร์ด โกลบอล ฟลีท เซลส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และดูไบ

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด รวมถึงบริษัทหรือธุรกิจในเครือได้ที่ www.rmagroup.net

ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าข้องข้อมูลส่วนบุคคลในประเภท ดังต่อไปนี้

ผู้สมัครงาน

บุคคลที่อาจได้รับคัดเลือกให้เป็นบุคลากรของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากผู้สมัครงาน หรือผ่านทางบุคคลภายนอก

บุคลากร

บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัทฯ และได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นใด (ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร) จากบริษัทฯ เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ลูกจ้าง พนักงาน พนักงานฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่รวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานหรือบุคลากร

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานหรือบุคลากรของบริษัทฯ และหมายรวมถึงบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว (อาทิ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น

วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมโดยวิธีการอัตโนมัติจากการที่ท่านได้ใช้บริการของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก

ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมายรวมถึง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม หรือใช้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565

วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จะต้องใช้ในการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด มีความเกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่าน การที่ท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับบริษัทฯ อาจทำให้เกิดผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน

ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ เว้นแต่ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมตามกฎหมาย หรือตามสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีดังที่ได้กล่าวมานี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายหรือประกาศฉบับที่ได้มีเพิ่มเติมร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์และข้อบังคับภายใต้กฎหมายให้แก่หน่วยงานและบุคคล ดังต่อไปนี้

ระยะเวลาการจัดเก็บ

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามระยะเวลาอื่นใดที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ในการนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาอายุความสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รวมถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท และที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการแก่ท่าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือธุรกรรมใด ๆ ได้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น (หรือระยะเวลาที่นานกว่านั้นตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้) บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากระบบหรือการจัดเก็บของบริษัทฯ รวมถึงระบบหรือการจัดเก็บของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวบุคคลได้

หากท่านมีข้อสงสัยประการใดหรือต้องการรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมจากท่านดังนี้

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและอาจขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่ไม่สามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวตนได้ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้

สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ หรือมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่าในทางใด ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้ช่องทางการติดต่อในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ ตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับประกาศฯ ฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้แบบฟอร์มตามที่ได้เผยแพร่บน www.rmagroup.net

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางฝ่ายกำกับดูแล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศฯ ฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและต้องตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือทำการปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ในเวลาใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขตามความจำเป็นเพื่อให้ประกาศฯ ฉบับนี้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้หรือข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบประกาศฯ ทุกครั้งที่ท่านเข้าถึงหรือใช้บริการ หรือเมื่อท่านมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไม่ว่าในทางใด เพื่อให้ท่านได้ทราบอยู่เสมอว่าบริษัทฯ มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวอย่างไร รวมถึงวิธีการที่ท่านจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านได้

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

[1] กลุ่มบริษัทอาร์เอ็มเอ ประกอบไปด้วย นิติบุคคลดังต่อไปนี้ ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายราย (1) บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด (2) บริษัท อาร์.เอ็ม.เอ.เทรดดิ้ง จำกัด (3) บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด (4) บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด (5) บริษัท อาร์เอ็มเอ ซิตี้ มอเตอร์ส จำกัด (6) บริษัท โกลบอล อาร์เมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (7) บริษัท โกลบอล ฟลีท เซลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (8) บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด (9) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ (10) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด

ประกาศความเป็นส่วนตัว บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด

สำหรับการใช้กล้องวงจรปิด

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”

“อาร์เอ็มเอ” หรือ “บริษัทฯ”

เกี่ยวกับบริษัทฯ

บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด เป็นนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 150 อาคารทีเพลซ ชั้น 15 ซอยสขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย
  
กลุ่มบริษัท อาร์เอ็มเอ มีการดำเนินกิจการใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยที่อาร์เอ็มเอ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการชั้นนำในภาคธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ

การดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ การขายปลีกยานยนต์ การผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วน ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ การจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก การผลิตพลังงาน ตลอดจนแฟรนไชส์อาหาร และการให้บริการด้านวิศวกรรม โดยมีโรงงานผลิตและดัดแปลงยานยนต์ของอาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี แอฟริกาใต้ พม่า ออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานของ ฟอร์ด โกลบอล ฟลีท เซลส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และดูไบ

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rmagroup.net

วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ภายในอาคารสถานที่หรือบริเวณโดยรอบพื้นที่ของบริษัทฯ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ ซึ่งอาจประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีดังที่ได้กล่าวมานี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายหรือประกาศฉบับที่ได้มีเพิ่มเติมร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์และข้อบังคับภายใต้กฎหมายให้แก่หน่วยงานและบุคคล ดังต่อไปนี้

ระยะเวลาการจัดเก็บ

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันหรือเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามระยะเวลาอื่นใดที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ในการนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาอายุความสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รวมถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท และที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการแก่ท่าน

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น (หรือระยะเวลาที่นานกว่านั้นตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้) บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากระบบหรือการจัดเก็บของบริษัทฯ รวมถึงระบบหรือการจัดเก็บของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวบุคคลได้

หากท่านมีข้อสงสัยประการใดหรือต้องการรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมจากท่านดังนี้

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและอาจขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่ไม่สามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุยืนยันตัวตนได้ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้

สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ หรือมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่าในทางใด ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้ช่องทางการติดต่อในหัวข้อช่องทางการติดต่อบริษัทฯ ตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

กรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับประกาศฯ ฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยใช้แบบฟอร์มตามที่ได้เผยแพร่บน www.rmagroup.net

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางฝ่ายกำกับดูแล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศฯ ฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและต้องตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับประกาศฯ ฉบับนี้

การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือทำการปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ในเวลาใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจทำการแก้ไขตามความจำเป็นเพื่อให้ประกาศฯ ฉบับนี้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้หรือข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบประกาศฯ ทุกครั้งที่ท่านเข้าถึงหรือใช้บริการ หรือเมื่อท่านมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไม่ว่าในทางใด เพื่อให้ท่านได้ทราบอยู่เสมอว่าบริษัทฯ มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวอย่างไร รวมถึงวิธีการที่ท่านจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านได้

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

[1] กลุ่มบริษัทอาร์เอ็มเอ ประกอบไปด้วย นิติบุคคลดังต่อไปนี้ ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายราย (1) บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด (2) บริษัท อาร์.เอ็ม.เอ.เทรดดิ้ง จำกัด (3) บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด (4) บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด (5) บริษัท อาร์เอ็มเอ ซิตี้ มอเตอร์ส จำกัด (6) บริษัท โกลบอล อาร์เมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (7) บริษัท โกลบอล ฟลีท เซลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (8) บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด (9) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ (10) บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด